วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

Future Perfect Tense12


โครงสร้าง

      S + will /shall + have + been + Ving

หลักการใช้ 

        Tense นี้มีวิธีใช้เหมือนกับ Future Perfect ต่างกันตรงที่ว่า เราใช้ Tense นี้ก็เพื่อเน้นว่าการกระทำได้ดำเนิน
          ต่อเนื่องกันไปเมื่อถึงเวลานั้นการกระทำนั้นก็ยังคงดำเนินอยู่และจะดำเนินต่อไปอีก เช่น
                  - By 2005 we'll have been living in Lampang for ten years.
                        (เมื่อถึงปี 2005 เราจะอาศัยอยู่ในลำปางครบ 10 ปี = We came to live in Lampang in 1995.
                         We shall probably continue living in Lampang after 2005.)

                   - When we finish M.6, we 'll have been studying English for twelve years.
                          (เมื่อเราจบชั้น ม.6 เราจะเรียนภาษาอังกฤษครบ 12 ปี = We studied English in the past
                           and 
after we finish M.6 we probably continue studying English.)

                   - It will have been raining for one hour if it doesn't stop by four o'clock.
                           (ฝนจะตกได้ครบ 1 ชั่วโมง ถ้ามันยังไม่หยุดตกภายใน 4 โมงนี้ = It started raining at three o'clock
                            and it probably continue raining after that.)




Future Perfect Tense11

                 

โครงสร้าง
          S + will/shall + have + V3      

หลักการใช้


       ใช้เพื่อแสดงการกระทำหรือเหตุการณ์ซึ่งจะได้สิ้นสุดลง ณ เวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต โดยมีเวลา
       บอกไว้อย่างชัดเจนว่า เมื่อถึงเวลานั้นแล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะสำเร็จเรียบร้อย แม้ว่าในขณะที่พูด
        เหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นแล้วหรือยังไม่เกิดก็ตาม มักใช้กับคำว่า "by" เช่น by tomorrow , 
        by 5 o'clock , by next week , by 2005 , by the end of this month (year) , 
        by then , by the time
             - By the end of this year your new maid will have broken all 
                your glasses.
                  (เมื่อถึงสิ้นปีนี้ คนใช้คนใหม่ของเธอจะทำแก้วแตกทั้งหมด =All the glass will break 
                    before the end of this year)
             - The meeting will have finished by six o'clcok.
                   (การประชุมจะเสร็จสิ้นแล้วเมื่อถึงเวลา 6 นาฬิกา = It may have started already 
                    or it may not have started yet. But it will finish before six.)
             - You'll have done your homework when your parents arrive.
                   (เธอจะทำการบ้านเสร็จแล้วเมื่อพ่อแม่กลับมาถึงบ้าน = The homework will be 
                   finished before their arrival.)
            - He'll have saved much by the time he has retired.
                   (เขาจะเก็บเงินได้มากแล้วเมื่อถึงเวลาที่เขาเกษียณจากงาน)

           หมายเหตุ -- ข้อความใน time clause นั้นจะต้องใช้ present simple หรือ 
                                present perfect จะใช้ future simple ไม่ได้ เช่น
         - When we reach America , we shall have sailed around the world.
         - She'll have written five books by the time she has finished this one.

 
ขอบคุณข้อมูลจาก:http://www.lks.ac.th/teacher_jonggonee/kaidream/future_perfect.html

Future Continuous Tense10


โครงสร้าง
             S + will / shall + be + Ving
I, We
shall
be
working
running
walking
learning
at this time tomorrow.
You , He , She , It
They , Samuel
will
หลักการใช้ 

             1. ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นและจะกำลังเกิดขึ้นอยู่ในเวลาที่บ่งไว้ชัดเจนในอนาคต เช่น
                      - We'll be driving to the country at half past nine tomorrow.
                           (เราจะกำลังขับรถไปชนบทตอน 9.30 วันพรุ่งนี้)
                      - He'll be living in Australia this time next year.
                      - They'll be waiting at the airport when you arrive.
                      - Your parents will be thinking of you while you are taking the exam.

             2. ใช้กับเหตุการณ์ที่ได้ตัดสินใจแน่นอนว่าจะทำเช่นนั้นในอนาคต เช่น
                     - He'll be having extra lessons twice a week next term.
                     -  You'll be wearing warm clothes every day when you live in England.

              3. ใช้เมื่อต้องการถามหรือขอร้อง (polite questions or requests)
                     - Will you be staying here longer?
                     - Will you be coming to see me soon?
                     - Will you be paying me a visit this week?      

ขอบคุณข้อมูลจาก:  http://www.lks.ac.th/teacher_jonggonee/kaidream/future_con.html                

Future Simple Tense9


โครงสร้าง
          S + will / shall + V1

I , We
shall
play football this evening.
eat some fruit.
go to the concert tonight.
You , He, She , It
They , Mary
will
หลักการใช้ 

      1. ใช้เมื่อจะมีการกระทำอย่างหนึ่งเกิดขึ้นในอนาคต shall ใช้กับบุรุษที่ 1 (I , We) ส่วน will ใช้กับบุรุษที่ 2, 3
            (You , he , they , etc..) และคำนามทั่วไป (Jane , Tom , John and Mary, etc..) แต่ในปัจจุบัน
            เราใช้ will ได้กับทุกบุรุษสรรพนาม
            คำวิเศษณ์ที่บอกเวลา (Adverbs of time) สำหรับการกระทำที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มีดังนี้
            soon , shortly , in a short time , in a moment , in a while , in a week's time ,
            in two days' time , in the future , in a few minutes (days , weeks , months, etc..)
            tonight , tomorrow , next week (month , year, Monday, etc..) later (on) = afterwards ,
            from now on (ตั้งแต่เวลานี้เป็นต้นไป)
            - The play will begin in ten minutes' time.
            - The test tomorrow will be on everything in the book from Text 15 to Text 20.
            - We will finish "The Future Tense" next Friday.
            - I will try my best from now on.

       2. ประโยคแสดงอนาคตที่มีกริยา 2 ตัว ให้ใช้ future simple กับกริยาเพียวตัวเดียวตัวหนึ่ง ใช้
            present simple หรือ present perfect กริยาที่ใช้รูป future simple คือ คำกริยาซึ่งอยู่หน้าคำเชื่อม
            คำเชื่อมที่พบมาก ได้แก่ when , until , as soon as , before , after , the moment (that) ,
            by the time that , now that , unless

The Future Simple
if , unless, when, until,
as soon as, before , after ,
now that , the moment that,
by the time that
Present Simple
Present Perfect
             
                 - We will go if we have time.
                 - When they get here, you 'll see how tired they are.
                 - They cannot leave until they do(have done) their work.
                 - He will visit you after he has had something to eat.
                 - Now that you have won the lottery , what are you going to do?
                 - I'll wait
 until he comes.
                (คำ after , now that , when (ในความหมายของ after) นิยมใช้กับ Present Perfect)

       3. การกระทำที่มีการตัดสินใจที่จะทำหลังการถามเสร็จสิ้น โดยไม่ได้มีการวางแผนมาก่อนล่วงหน้า
               - John : Can anybody help me , please?
                  Helen : Yes, I'll help you. (มีการตัดสินใจว่าจะช่วยหลังจากที่ John ถาม)
               - Tom : You know today is Mary's birthday?
                  John : Oh really? I'll buy her a present.  (John จะซื้อของขวัญให้ Mary
                  หลังจากเพิ่งรู้จาก Tom ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของ Mary)


         

"The Going to " Future
                      
                 S + is/am / are + going to + V1

               หลักการใช้ to be going to
                a) ใช้แทน will หรือ shall ที่แสดงถึงการกระทำในอนาคต เมื่อกล่าวถึงแผนการณ์ (plans)
                      หรือความตั้งใจ (intentions) หรือสิ่งที่ได้ตัดสินใจที่จะทำในอนาคต

                         - Are you going to meet your friends at the airport?
                           (เป็นการตั้งใจที่จะไปพบ)
                         - He says he is going to get up very early in the future.
                            (เขาตั้งใจที่จะตื่นเช้าในอนาคต) 
                         - He is going to be a doctor. (ความตั้งใจ)
                         - They are going to perform a play at the end of next term. (แผนการณ์)

                 b) ใช้กับเหตุการณ์ที่คิดว่าจะเกิดขึ้นแน่ๆ (certain happen)
                         - Be careful! You're going to fall.
                         - Look at that black clouds, it's going to rain.
                         - One day he's going to regret at being so lazy.

                (หมายเหตุ --- "going to" ที่แสดงอนาคตนี้มักนิยมใช้ภาษาพูด (spoken English) มากกว่าภาษาเขียน  (written English)      

ขอบคุณข้อมูลจาก:http://www.lks.ac.th/teacher_jonggonee/kaidream/future_simple.html

Past Perfect Continuous Tense8


โครงสร้าง
         S + had + been + Ving

หลักการใช้

       1. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสองเหตุการณ์ในอดีต เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นก่อนและกำลังดำเนินอยู่เป็นเวลาต่อเนื่องกัน
            ก่อนที่จะมีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ซึ่งก็เหมือนกับ Past Perfect นั่นเอง แต่ต่างกับ Past Perfect ตรงที่
           เน้นถึงอาการที่ได้ดำเนินต่อเนื่องกันไปเท่านั้น เช่น 
          - We had been discussing the matter for two and a half hours when he arrived.
                      (แสดงให้เห็นถึงการอภิปรายที่เริ่มต้นก่อนที่เขาจะมาถึง และบางที่จะดำเนินต่อไปอีก) 
          - When he came , she had been waiting for half an hour.
          - She had been living in Phrae for ten years before she moved to Lampang.

             หมายเหตุ -- กริยาบางตัวเท่านั้นที่ใช้รูป Perfect Continuous ได้ เช่น wait , work , live , lie , 

                                sleep,go, play , talk , sit , etc....ซึ่งเป็นกริยาที่แสดงอาการได้นานๆ (long action) 

   2. ใช้แสดงการกระทำที่เป็นอดีต แต่ปรากฎผลให้เห็นในเวลาต่อมา เช่น
          - Mary was dark because she had been sunbathing.
          - I was tired because I had been driving all day.

ขอบคุณข้อมูลจาก:http://www.lks.ac.th/teacher_jonggonee/kaidream/past_perfect_con.html

Part Perfect Tense7


ครงสร้าง
            S + had + V3

   รูปประโยคของ Past Perfect Tense นี้ ไม่ว่าประธานจะเป็นเอกพจน์ หรือพหูพจน์จะต้องใช้กริยาช่วย had กับกริยาช่องที่ 3 เสมอ เช่น

I , He , She,
Jim
had
gone out before John came.
finished reading when Bill came in.
left when Helen reached home.
You , We , They,
Tom and Mary
หลักการใช้ 


      1. ใช้กับเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงแล้วในอดีตเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นก่อน
อีกเหตุการณ์หนึ่ง 
              เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน ใช้ Past Perfect
              เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลัง ใช้ Past Simple
              และมักจะเชื่อมด้วยคำว่า when , before , after , until , as soon as , เช่น
                 - He had written to her four times when he got her reply.
                        (ใช้ past perfect เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาเขียนถึงเธอ 4 ครั้ง ก่อนที่เขาได้รับคำตอบจากเธอ)

       2. ใช้กับคำว่า by the time
            By the time + Past simple , Past Perfect
                 - By the time the sun set , we had left school.
                 - By the time the children went to bed , they had already finished their homework.

      3. ใช้หลังคำว่า that ในประโยค Indirect Speech ซึ่งเปลี่ยนมาจากประโยค Direct Speech เช่น
                 - He told me that they had left about an hour before.
                 - They said that they had done the report.

       4. ใช้กับ no sooner ................than... (ทันทีที่..........ก็....)
                     Hardly ....................when ....(ทันทีที่..........ก็....)
                     Scarcely ............when .......(ทันทีที่..........ก็....)
            

Subject
had
no sooner
V3
than
Subject
Past Simple
hardly
when
scarcely
when

                   
                     - They had no sooner finished their work than they went out.
                     - They had scarcely left the house when the letter came.

ขอบคุณข้อมูลจาก:http://www.lks.ac.th/teacher_jonggonee/kaidream/past_perfect.html

Part Continuous Tense6

โครงสร้าง
        S + was /were + Ving

I , He , She
John
was
walking
running.
singing.
swimming.
sleeping
at eleven o'clock yesterday.
We, You , They ,
The boys
were

หลักการใช้

       1. ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีตในเวลาที่บ่งไว้ชัดเจน เช่น
                - They were learning English at eleven o'clock yesterday.
                - At nine o'clock last night we were watching television.

        2. ใช้กับเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่เป็นเวลานานในเวลาเดียวกันในอดี ซึ่งจะใช้ past continuous
              กับทั้งสองเหตุการณ์นั้น เช่น
               - The students were thinking about their lunch while the teacher was explaining
                  new words.
                         (Two long actions happening at the same time in the past.)
               - She was singing as I was sweeping the floor.

       3. ใช้กับเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นและกำลังดำเนินอยู่ และมีอีกเหตุการณ์หนึ่ง
            ซึ่งเป็นเหตุการณ์สั้นๆ เข้ามาแทรก (The first action was happening when the second ,
            shorter action happened.)
            เหตุการณ์ที่เกิดก่อนและกำลังดำเนินอยู่ ใช้ past continuous
            เหตุการณ์สั้นๆ ที่เข้ามาแทรก ใช้ past simple
               - The student interrupted her while she was explaining how to use the machine.
                    (นักเรียนพูดสอดแทรกเธอ ในขณะที่เธอกำลังอธิบายถึงวิธีการใช่เครื่องจักร)
               - When I came home , my mother was talking on the telephone.
               - While/As he was walking past the building , he heard a scream.

           หมายเหตุ --- Clause ที่ตามหลัง when (เมื่อ) มักใช้ past simple ส่วน clause ที่ตามหลัง while (as) (ในขณะที่)
                                มักใช้ past continuous แต่ถ้าเหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในขณะเดียวกัน                                หรือเกือบขณะเดียวกัน ก็ให้ใช้ past simple ทั้งสองเหตุการณ์
 เช่น
                                - They left the hall as I entered it.
  
       4. ใช้กับการกระทำที่เกิดขึ้นซ้ำซากในอดีต ในเวลาที่บ่งไว้ชัดเจน
               - Last year he was taking paino lessons every day.
               - We were visiting my parents every evening while we were in Bangkok

ขอบคุณข้อมูลจาก:http://www.lks.ac.th/teacher_jonggonee/kaidream/past_cont.html